Lecture 14/12/10

ปัจจุบัน Internet เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ซึ่งธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาใช้ Internet ในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น มีการขายของผ่านเว็ปไซด์ ฯลฯ ซึ่งจะเห็นได้ตามบริษัทต่างๆ เช่น

Dell : เป็นบริษัทที่ขาย Computer ผ่าน Internet ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือก Spec ของ Computer ที่ตนเองต้องการได้ ซึ่ง Dell ได้มีการทำธุรกิจเน้นขายสินค้าไปให้ลูกค้าที่เป็นองค์กรหรือบริษัทอีกด้วย ซึ่งลูกค้าเหล่านี้เองช่วยทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีมาก เพราะปริมาณที่สั่งนั้นมีจำนวนมากกว่าลูกค้าที่เป็น Individual Customer

E-bay : เป็นบริษัทที่เปิด Website เพื่อให้โอกาสบุคคลต่างๆ มาขายของผ่านทาง Website โดย E-bay จะได้เป็นค่านายหน้าหรือค่าให้เช่าพื้นที่เป็นรายได้ ซึ่งนอกจากการขายปกติแล้วก็ยังมีการขายแบบประมูลอีกด้วย ซึ่งสินค้าที่ขายอยู่ภายใน Website นั้นมีมากมายหลากหลายชนิดจากทั่วทุกมุมโลก

Amazon : เป็นบริษัทที่เริ่มจากการขายหนังสือต่างๆ ผ่านทาง Internet โดยเริ่มจากความคิดที่ว่า ถ้าขายหนังสือผ่านทางร้านค้าปกติ จะมีข้อจำกัดทางด้านพื้นที่การวางจำหน่ายหนังสือ ทำให้หนังสือที่มีขายอยู่ในร้านส่วนใหญ่เป็นจะเป็นหนังสือขายดี หนังสือเก่าๆก็อาจจะไม่มีขาย ทำให้ Amazon นำกลยุทธ์ Longtail มาใช้ ก็คือ การขายหนังสือผ่านทาง Internet นั่นเอง

Click-&-mortar VS. Brick-&-mortar
Click-&-mortar เป็นการทำ E-Commerce โดยมีการผสมผสานกันระหว่างการขายสินค้าผ่านทาง Internet กับการขายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน เพื่อเป็นการเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด สามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
Brick-&-mortar เป็นการขายสินค้าผ่านทางหน้าร้ากปกติเพียงอย่างเดียว ไม่มีการขายผ่านทาง Internet แบบ Click-&-mortar

E-Commerce Business Model - Examples

Affiliate Marketing : เป็นการโฆษณาผ่านทาง Website ต่างๆ
ฺBartering Online : เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือข้อมูลกันผ่านทางเว็ปไซด์
E-Auctions : เป็นการประมูลสินค้าผ่านทางเว็ปไซด์ เช่น E-bay
Social Commerce/Social Shopping : เป็นการทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้ามีการบอกต่อถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าต่างๆ ผ่านทาง Social Network

Benefits of E-Commerce
เป็นการเพิ่ม Values ให้กับองค์กร ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สะดวกขึ้น ทำให้ตอบสนองลูกค้าได้ตรงตามความต้องการ ส่งผลให้ลูกค้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้ามากขึ้น โดยลูกค้าเองก็มีทางเลือกหลากหลายมากยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ดียิ่งขึ้น

Limitation of E-Commerce
- กลุ่มลูกค้าบางกลุ่มอาจจะยังไม่มี Internet ใช้ หรือเข้าถึงได้ยาก
- การขายสินค้าผ่านทาง Internet อาจจะทำให้เวลาที่ซื้อสินค้าที่ต้องชำระโดยใช้บัตรเครดิตผ่านทาง Website ข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าอาจจะโดน Hack ไปได้

Lecture 7/12/10

Moore's Law
ความสามารถของ Computer Chip จะสูงขึ้น 2 เท่า ทุกๆ 18 - 24 เดือน ในขณะที่ต้นทุนยังคงเท่าเดิม ทำให้องค์กรธุรกิจที่โอกาสในการ Computer ที่มีคุรภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ยังคงสามารถซื้อได้ในราคาเท่าเดิมอยู่ ส่งผลให้อัตราส่วน Price to Performance ลดลงแบบ Exponential ทำให้ในอนาคตอีก 10 - 20 ปี อาจจะต้องมีการนำเทคโนโลยีอื่นมาใช้แทน

Productivity Paradox
Productivity Paradox เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ในขณะที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่การเติบโตของ Productivity เป็นไปอย่างช้ามาก ซึ่งอาจเกิดจากการที่ productivity Gain วัดได้ยาก เป็นต้น


ผลกระทบทางด้านการลงทุน IT
ผลกระทบทางด้านการลงทุน IT มี 2 ประเภท ก็คือ Direct Impact และ Second-order Impact
- Direct Impact คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที เช่น การเพิ่มยอดขาย เป็นต้น
- Second-order Impact คือ ผลกระทบทางอ้อม เช่น ภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นขององค์กร เป็นต้น


Why Justify IT Investment?
การลงทุนทางด้าน IT ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่ของใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ดังนั้นก่อนที่องค์กรจะตัดสินใจลงทุนก็จะต้องมีการพิจารณาในหลายๆ ด้าน เช่น พิจารณาเกี่ยวกับ Cost-to-benefit เป็นต้น ซึ่งในบางครั้งการลงทุนทางด้าน IT ก็อาจจะตัดสินใจได้ทันทีเลยว่าจะลงทุนหรือไม่ลงทุน เช่น โครงการที่ใช้งบประมาณน้อย โครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการที่เป็นข้อบังคับตามกฏหมาย เป็นต้น

Intangible Benefit
Intangible Benefit คือ ผลประโยชน์ที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว จะวัดผลประโยชน์ชนิดนี้ออกมาเป็นตัวเงินได้ยากมาก ดังนั้นจึงอาจจะใช้วิธีวัดในทางอื่นเช่น วัดความพึงพอใจของลูกค้า เป็นต้น

Cost IT Investment
เนื้อหาหลักของ Cost IT Investment ก็คือการปันส่วน Fixed Cost ซึ่ง Fixed Cost ก็คือ ต้นทุนที่ต้องเสียไปไม่ว่าจะทำกิจกรรมในระดับใด ส่วน Transaction Cost เป็นค่าใช้จ่ายหลังจากติดตั้งระบบแล้ว ประกอบด้วย
- Search : ต้นทุนในการหาสินค้า
- Information : ต้นทุนในการหาข้อมูล
- Negotiation : ต้นทุนในการเจรจาตกลงซื้อขาย
- Decision : ต้นทุนในการตัดสินใจ
- Monitoring : ต้นทุนในการติดตามสินค้าหลังการขาย

Cost & Benefit Analysis
โดยปกติแล้ว เราจะลงทุนในโครงการที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าต้นทุนที่เสียไป หรือกล่าวอีกทางก็คือเราจะลงทุนในโครงการที่คุ้มนั่นเอง ซึ่งจะมีขั้นตอนในการวิเคราะห์ Cost & Benefit 2 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
- ระบุและประมาณต้นทุนและประโยชน์ที่จะได้รับทั้งหมดของโครงการ
- อธิบายต้นทุนและผลโยชน์ที่จะได้รับออกมาเป็นตัวเงิน
โดยที่ Cost จะประกอบด้วย
- Development Cost
- Setup Cost
- Operational Cost
ส่วน Benefit ประกอบด้วย
- Direct Benefit
- Assessable Indirect Benefit
- Intangible Benefit

Cost-Benefit Evaluation Techniques
- Net Profit
- Payback Period
- Return on Investment (ROI)
- Net Present Value (NPV)
- Interest Rate of Return (IRR)

Lecture 30/11/10

Outsourcing, Offshoring, and IT as a subsidiary
การ Outsource คือ การนำส่วนงานหนึ่งๆ ขององค์กร ซึ่งองค์กรไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือไม่มีความถนัดไปให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกองค์กรเป็นผู้ดำเนินการแทน เช่น Outsource ทางด้าน IT โดยส่วนงานนั้นจะต้องไ่ม่ใช่ส่วนงานหลักขององค์กร ซึ่งองค์กรก็ยังคงต้องกำหนดนโยบายและคุณภาพของผู้มาดำเนินการแทนอีกด้วย นอกจากปัจจัยทางด้านความไม่เชี่ยวชาญและความไม่ถนัดที่ทำให้องค์กรต้อง Outsource แล้ว ยังมีเหตุผลทางด้านองค์กรต้องการ Focus การดำเนินงานไปที่ Core ฺีBusiness ของตนเองเพื่อความมีประสิทธิภาพสูงสุด องค์กรต้องการลดต้นทุนถ้าหากต้องนำส่วนงานที่ Outsource มาดำเนินงานเอง องค์กรต้องการปรับปรุงคุรภาพของส่วนงานที่ Outsource เพราะเชื่อว่าให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาดำเนินงานแทน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การ Outsource ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสมอไป การ Outsource นั้นก็อาจทำให้องค์กรมีความเสี่ยง เช่น Outsourcer อาจจะไม่ดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถ ในขณะที่คิดค่าบริการอย่างเต็มที่ Outsourcer อาจจะนำโปรแกรมที่ใช้กับองค์กรเรา นำไปใช้กับองค์กรอื่น หรือ Outsourcer อาจจะมีการคิดค่าบริการส่วนเพิ่ม หรือมีการขอเปลี่ยนแปลงสัญญา เป็นต้น

นอกจากการที่องค์กรจะ Outsource ผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศแล้ว องค์กรยังสามารถ Outsource ผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานในต่างประเทศได้ หรือที่เรียกว่า Offshore Outsourcing แต่การ Outsource ลักษณะนี้ก็มีข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เช่น เศรษฐกิจของประเทศนั้น กฏหมายต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังไม่ควร Offshore Outsourcing ในงานที่ไม่มีลักษณะเ็ป็นกิจวัตร งานที่อาจจะทำให้องค์กรสูญเสียอำนาจการควบคุมในส่วนงานหลักขององค์กรมากเกินไป งานที่อาจจะมีปัญหาทางด้านการเก็บรักษาข้อมุล ความปลอดภัยของข้อมูล หรือข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา หรืองานที่อาจจะต้องใช้ความรู้อื่นๆ ประกอบกับความรู้ทางด้าน IT รวมเข้าด้วยกัน

Acquisition Process of IT Application
มี 5 ขั้นตอน ได้แก่
1. Planning, identifying, and justifying IT based systems
- เป็นการวางแผนว่าองค์กรต้องการระบบอะไรบ้าง มีความพร้อมหรือไม่อย่างไร
2. Creating an IT architecture
- เป็นการวางโครงสร้างของระบบ IT ขององค์กร
3. Selecting an acquisition option
- เลือกวิธีการได้มาซึ่ง IT อาจจะทำได้โดย การพัฒนาขึ้นมาจากภายในองค์กร จ้างพัฒนาตามความต้องการขององค์กร เช่าซื้อ ซื้อระบบสำเร็จรูป เป็นต้น
4. Testing, installing, integrating, and deploying IT applications
- ทดสอบและติดตั้งระบบว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่
5. Operation, maintenance, and updating
- การดูแล บำรุงรักษาระบบ และต้องมีการพัฒนาปรับปรุงระบบ IT อยู่เสมอ

Managerial Issues 
1. Global & cutural - โลกาภิวัฒน์และวัฒนธรรม
2. Ethical & legal issuesกฏหมายและจริยธรรม
3. User involvement is critical - การมีส่วนร่วมจากหน่วยงานต่างๆ
4. Change Management - การบริหารความเปลี่ยนแปลง
5. Risk Management - การบริหารความเสี่ยง